Dev to webs {Coding…}

เรียนรู้การพัฒนาซอฟเวอร์ เพื่อความรู้ที่ยั่งยืน

บทที่ 13: การสำรองข้อมูลและกู้คืนเว็บไซต์ใน WordPress

1. ความสำคัญของการสำรองข้อมูล

การสำรองข้อมูลช่วยป้องกันการสูญเสียข้อมูลจากเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น การแฮ็กเว็บไซต์ การลบข้อมูลโดยไม่ได้ตั้งใจ หรือข้อผิดพลาดหลังการอัปเดตปลั๊กอิน การมีไฟล์สำรองที่ดีช่วยให้คุณกู้คืนเว็บไซต์กลับมาได้อย่างรวดเร็วและลดผลกระทบต่อผู้ใช้งาน


2. องค์ประกอบที่ต้องสำรอง

  • ไฟล์เว็บไซต์: รวมถึงธีม, ปลั๊กอิน, และสื่อ (Media Files)
  • ฐานข้อมูล: โพสต์, เพจ, ความคิดเห็น, และการตั้งค่าต่าง ๆ ของเว็บไซต์

3. วิธีสำรองข้อมูล

3.1 การสำรองข้อมูลด้วยปลั๊กอิน

ปลั๊กอินสำหรับสำรองข้อมูลเป็นวิธีที่ง่ายและรวดเร็ว

ปลั๊กอินยอดนิยม:

  1. UpdraftPlus
    • สามารถสำรองข้อมูลไปยัง Cloud Storage เช่น Google Drive หรือ Dropbox
    • วิธีใช้งาน:
      1. ติดตั้งและเปิดใช้งานปลั๊กอิน
      2. ไปที่ “Settings” > “UpdraftPlus Backups”
      3. คลิก “Backup Now” เพื่อเริ่มสำรองข้อมูล
  2. BackWPup
    • รองรับการสำรองข้อมูลไปยัง FTP และ Cloud Storage
    • วิธีใช้งาน:
      1. สร้าง Job ใหม่
      2. เลือกตำแหน่งที่จัดเก็บไฟล์สำรอง เช่น Dropbox หรือ Amazon S3
  3. BackupBuddy (ปลั๊กอินพรีเมียม)
    • รองรับการสำรองข้อมูลอัตโนมัติและการกู้คืนที่ง่าย

3.2 การสำรองข้อมูลด้วยตนเอง

  • สำรองไฟล์เว็บไซต์: ใช้โปรแกรม FTP เช่น FileZilla เพื่อดาวน์โหลดโฟลเดอร์ /wp-content/
  • สำรองฐานข้อมูล:
    1. เข้าสู่ phpMyAdmin
    2. เลือกฐานข้อมูลของเว็บไซต์
    3. คลิก “Export” เพื่อดาวน์โหลดไฟล์ .sql

4. วิธีการกู้คืนข้อมูล

4.1 กู้คืนข้อมูลด้วยปลั๊กอิน

  • ใช้ปลั๊กอิน UpdraftPlus:
    1. ไปที่ “Settings” > “UpdraftPlus Backups”
    2. เลือกไฟล์สำรองที่ต้องการ
    3. คลิก “Restore” เพื่อกู้คืนไฟล์

4.2 กู้คืนข้อมูลด้วยตนเอง

  1. อัปโหลดไฟล์เว็บไซต์: ใช้ FTP เพื่ออัปโหลดไฟล์กลับไปยังเซิร์ฟเวอร์
  2. นำเข้าฐานข้อมูล:
    • เข้าสู่ phpMyAdmin
    • เลือกฐานข้อมูล และคลิก “Import” เพื่ออัปโหลดไฟล์ .sql

5. การตั้งค่าการสำรองข้อมูลอัตโนมัติ

การตั้งค่าสำรองข้อมูลอัตโนมัติช่วยลดความเสี่ยงในการลืมสำรองข้อมูล:

  1. ใช้ปลั๊กอิน เช่น UpdraftPlus หรือ BackWPup
  2. กำหนดความถี่ เช่น รายวันหรือรายสัปดาห์
  3. บันทึกไฟล์สำรองในตำแหน่งปลอดภัย เช่น Cloud Storage หรือ External Drive

6. เคล็ดลับสำคัญ

  1. เก็บไฟล์สำรองไว้อย่างน้อย 2 แห่ง
  2. ทดสอบการกู้คืนข้อมูลเป็นระยะ
  3. สำรองข้อมูลก่อนทำการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เช่น การอัปเดต WordPress, ธีม หรือปลั๊กอิน

ในบทนี้ คุณได้เรียนรู้วิธีการสำรองและกู้คืนข้อมูลเว็บไซต์ WordPress ด้วยวิธีต่าง ๆ รวมถึงการตั้งค่าการสำรองข้อมูลอัตโนมัติ ในบทถัดไป เราจะพูดถึงการเพิ่มความปลอดภัยให้กับเว็บไซต์ WordPress!