Dev to webs {Coding…}

เรียนรู้การพัฒนาซอฟเวอร์ เพื่อความรู้ที่ยั่งยืน

บทที่ 10 การปรับปรุง URL Structure เพื่อ SEO

URL Structure หรือโครงสร้างของ URL เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับในผลการค้นหา และยังมีบทบาทในการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ผู้ใช้งานอีกด้วย URL ที่ชัดเจนและกระชับช่วยให้เครื่องมือค้นหาเข้าใจโครงสร้างเนื้อหาของเว็บไซต์ และช่วยเพิ่มโอกาสให้เว็บไซต์ได้รับคลิกมากขึ้นจากผู้ใช้งาน

บทความนี้จะอธิบายถึงความสำคัญของการปรับปรุงโครงสร้าง URL และวิธีตั้งชื่อ URL ให้กระชับและเหมาะสมกับการค้นหาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ SEO


ความสำคัญของการปรับปรุง URL Structure

  1. ช่วยเพิ่มอันดับในผลการค้นหา (Search Rankings):
    URL ที่เหมาะสมช่วยให้ Google เข้าใจเนื้อหาของหน้าเว็บได้ง่ายขึ้น และเพิ่มโอกาสในการจัดอันดับ
  2. สร้างความน่าเชื่อถือ:
    URL ที่อ่านง่ายและเกี่ยวข้องกับเนื้อหา ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือในสายตาผู้ใช้งาน
  3. เพิ่มอัตราการคลิก (Click-Through Rate – CTR):
    URL ที่กระชับและชัดเจนช่วยให้ผู้ใช้งานมั่นใจที่จะคลิก
  4. ปรับปรุงโครงสร้างเว็บไซต์ (Site Structure):
    URL ที่ดีช่วยแสดงความสัมพันธ์ระหว่างหน้าเว็บต่าง ๆ ในเว็บไซต์

หลักการตั้งชื่อ URL ให้เหมาะสมกับ SEO

1. ใช้ URL ที่สั้น กระชับ และตรงประเด็น

  • URL ที่สั้นและชัดเจนช่วยให้ผู้ใช้งานและเครื่องมือค้นหาเข้าใจเนื้อหาได้ง่ายขึ้น
  • หลีกเลี่ยงการใช้ URL ที่ยาวเกินไปหรือเต็มไปด้วยตัวอักษรพิเศษ

ตัวอย่างที่ดี:


2. ใช้คีย์เวิร์ดใน URL

  • ใส่คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาใน URL เพื่อช่วยให้เครื่องมือค้นหาทราบว่าหน้าเว็บเกี่ยวกับอะไร
  • หลีกเลี่ยงการใส่คีย์เวิร์ดมากเกินไป (Keyword Stuffing)

ตัวอย่าง:

  • หากเนื้อหาเกี่ยวกับ “วิธีการทำ SEO” ควรตั้งชื่อ URL เป็น:
    https://example.com/how-to-seo

3. ใช้เครื่องหมายขีดกลาง (-) แทนขีดล่าง (_)


4. หลีกเลี่ยงการใช้ตัวอักษรพิเศษหรืออักขระที่ไม่จำเป็น

  • อักขระพิเศษ เช่น &, %, $, หรือ = อาจทำให้ URL ดูยากและซับซ้อนเกินไป
  • ใช้ตัวอักษรภาษาอังกฤษตัวเล็กทั้งหมดใน URL เพื่อความเป็นมาตรฐาน

ตัวอย่าง:


5. สร้างโครงสร้าง URL ที่สะท้อนถึงโครงสร้างเว็บไซต์

  • การสร้าง URL ที่แสดงถึงหมวดหมู่และหัวข้อช่วยให้ผู้ใช้งานและเครื่องมือค้นหาทราบถึงโครงสร้างเว็บไซต์
    ตัวอย่าง:
  • สำหรับบทความในหมวด “SEO Tips” และหัวข้อ “Basic SEO” ควรใช้:
    https://example.com/seo-tips/basic-seo

6. หลีกเลี่ยงการใช้คำทั่วไปที่ไม่มีความหมาย

  • คำอย่าง “and”, “of”, “the” สามารถตัดออกจาก URL ได้ เพื่อให้ URL สั้นและกระชับยิ่งขึ้น

ตัวอย่างที่ดี:


7. ใช้ HTTPS แทน HTTP

  • เว็บไซต์ที่ใช้ HTTPS ไม่เพียงแต่เพิ่มความปลอดภัย แต่ยังช่วยให้คะแนน SEO ดีขึ้น เพราะ Google ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของเว็บไซต์

ตัวอย่าง:


เครื่องมือช่วยปรับปรุง URL Structure

  1. Yoast SEO (สำหรับ WordPress):
    • ช่วยแนะนำการตั้งค่า URL และปรับปรุงโครงสร้างให้เหมาะสม
  2. Google Search Console:
    • ใช้เพื่อตรวจสอบว่าหน้าเว็บทั้งหมดถูกจัดทำดัชนี (Indexed) และไม่มี URL ที่ซ้ำซ้อน
  3. Ahrefs หรือ SEMrush:
    • ช่วยตรวจสอบว่า URL มีโครงสร้างที่เหมาะสมหรือไม่
  4. Screaming Frog SEO Spider:
    • ใช้เพื่อวิเคราะห์ URL ที่ซับซ้อนหรือมีปัญหา

ข้อควรหลีกเลี่ยงในการตั้งชื่อ URL

  1. หลีกเลี่ยง URL ที่ยาวเกินไป:
    • URL ที่ยาวทำให้ผู้ใช้งานและเครื่องมือค้นหาไม่สามารถเข้าใจเนื้อหาได้ทันที
  2. หลีกเลี่ยงตัวเลขหรือรหัสที่ไม่เกี่ยวข้อง:
  3. หลีกเลี่ยงการเปลี่ยน URL โดยไม่ตั้งใจ:
    • หากต้องเปลี่ยน URL ควรตั้งค่า 301 Redirect เพื่อส่งต่อ Traffic ไปยัง URL ใหม่

ตัวอย่างการปรับปรุง URL ให้เหมาะสม

ก่อนปรับปรุง:
https://example.com/index.php?cat=10&article=567

หลังปรับปรุง:
https://example.com/seo-tips-for-beginners


สรุป

การปรับปรุงโครงสร้าง URL ไม่เพียงช่วยเพิ่มโอกาสในการติดอันดับบน Google แต่ยังช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าใจเนื้อหาของหน้าเว็บได้ง่ายขึ้น โดยการตั้งชื่อ URL ให้กระชับ มีคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้อง และสะท้อนถึงโครงสร้างเว็บไซต์ จะช่วยเพิ่มทั้งประสิทธิภาพ SEO และประสบการณ์ผู้ใช้งานในระยะยาว

เริ่มต้นวันนี้ด้วยการตรวจสอบและปรับปรุง URL ของคุณเพื่อให้เว็บไซต์ของคุณโดดเด่นและพร้อมสำหรับการเติบโตในโลกออนไลน์!