1. การใช้คำสั่งเงื่อนไขใน PHP
คำสั่งเงื่อนไข (Conditional Statements) ใน PHP เป็นโครงสร้างที่ใช้ในการควบคุมการทำงานของโปรแกรม โดยให้โปรแกรมเลือกทำงานตามเงื่อนไขที่กำหนด ซึ่งจะช่วยให้การทำงานของโปรแกรมมีความยืดหยุ่นและปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์
PHP มีคำสั่งเงื่อนไขหลักๆ อยู่ 2 ประเภท ได้แก่ if-else และ switch ซึ่งมีการใช้งานที่แตกต่างกันไปตามรูปแบบของเงื่อนไขที่ต้องการ
2. คำสั่ง if-else ใน PHP
คำสั่ง if-else ใช้ในการตรวจสอบเงื่อนไขหนึ่งหรือหลายเงื่อนไข และให้โปรแกรมเลือกทำงานตามเงื่อนไขที่ตรงกัน ซึ่งเป็นคำสั่งที่ใช้บ่อยในการเขียนโปรแกรม
รูปแบบคำสั่ง if-else
if (เงื่อนไข) {
// คำสั่งที่จะทำงานหากเงื่อนไขเป็นจริง
} else {
// คำสั่งที่จะทำงานหากเงื่อนไขเป็นเท็จ
}
รูปแบบคำสั่ง if-elseif-else
if (เงื่อนไข1) {
// คำสั่งที่จะทำงานหากเงื่อนไข1 เป็นจริง
} elseif (เงื่อนไข2) {
// คำสั่งที่จะทำงานหากเงื่อนไข2 เป็นจริง
} else {
// คำสั่งที่จะทำงานหากไม่มีเงื่อนไขใดเป็นจริง
}
ตัวอย่างการใช้งาน if-else
<?php
$age = 18;
if ($age >= 18) {
echo "คุณสามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้";
} else {
echo "คุณยังไม่ถึงเกณฑ์";
}
?>
ในตัวอย่างนี้:
- หาก
$age
มีค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 18 โปรแกรมจะแสดงข้อความว่า “คุณสามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้” แต่ถ้าค่าน้อยกว่า 18 จะแสดง “คุณยังไม่ถึงเกณฑ์”
ตัวอย่างการใช้งาน if-elseif-else
<?php
$score = 85;
if ($score >= 90) {
echo "คุณได้เกรด A";
} elseif ($score >= 80) {
echo "คุณได้เกรด B";
} elseif ($score >= 70) {
echo "คุณได้เกรด C";
} else {
echo "คุณต้องปรับปรุง";
}
?>
ในตัวอย่างนี้:
- โปรแกรมจะตรวจสอบคะแนน
$score
เพื่อกำหนดเกรด หากคะแนนตรงกับเงื่อนไขใดก็จะทำตามคำสั่งของเงื่อนไขนั้นๆ
3. การใช้คำสั่ง switch ใน PHP
คำสั่ง switch ใช้ในกรณีที่ต้องการตรวจสอบค่าเดียวแต่หลายเงื่อนไข ซึ่งทำให้โค้ดดูเรียบร้อยและเข้าใจง่ายกว่า if-else เมื่อมีเงื่อนไขหลายเงื่อนไข
รูปแบบคำสั่ง switch
switch (ตัวแปร) {
case ค่าที่1:
// คำสั่งที่จะทำงานหากตัวแปรตรงกับค่าที่1
break;
case ค่าที่2:
// คำสั่งที่จะทำงานหากตัวแปรตรงกับค่าที่2
break;
default:
// คำสั่งที่จะทำงานหากไม่ตรงกับค่าใดๆ
break;
}
คำสั่ง break ใช้เพื่อหยุดการตรวจสอบเงื่อนไข เมื่อโปรแกรมเจอค่าแล้วก็จะออกจากคำสั่ง switch เพื่อป้องกันไม่ให้โปรแกรมทำงานต่อที่เงื่อนไขถัดไป
ตัวอย่างการใช้งาน switch
<?php
$day = "จันทร์";
switch ($day) {
case "จันทร์":
echo "วันนี้เป็นวันจันทร์";
break;
case "อังคาร":
echo "วันนี้เป็นวันอังคาร";
break;
case "พุธ":
echo "วันนี้เป็นวันพุธ";
break;
default:
echo "ไม่ทราบว่าวันอะไร";
break;
}
?>
ในตัวอย่างนี้:
- หากค่า
$day
ตรงกับ “จันทร์” จะทำการแสดงข้อความ “วันนี้เป็นวันจันทร์” แต่ถ้าไม่ตรงกับกรณีใดๆ จะไปที่default
และแสดงข้อความ “ไม่ทราบว่าวันอะไร”
4. การนำคำสั่ง if-else และ switch ไปใช้งานในโปรเจกต์จริง
คำสั่งเงื่อนไข if-else และ switch สามารถนำไปใช้งานได้หลากหลายในโปรเจกต์จริง เช่น การตรวจสอบสิทธิ์การใช้งาน การแสดงผลตามเงื่อนไข หรือการทำงานตามเงื่อนไขต่างๆ ในโปรเจกต์
4.1 การตรวจสอบสถานะการเข้าสู่ระบบด้วย if-else
การใช้ if-else เพื่อตรวจสอบว่าสถานะผู้ใช้ล็อกอินอยู่หรือไม่ หากล็อกอินแล้วจะแสดงข้อความต้อนรับผู้ใช้
<?php
$is_logged_in = true;
$user_name = "สมชาย";
if ($is_logged_in) {
echo "ยินดีต้อนรับ, $user_name";
} else {
echo "กรุณาเข้าสู่ระบบ";
}
?>
4.2 การใช้ switch สำหรับตรวจสอบประเภทของผู้ใช้
การใช้ switch เพื่อแสดงข้อความต้อนรับตามประเภทของผู้ใช้ เช่น ผู้ดูแลระบบ สมาชิกทั่วไป หรือผู้เยี่ยมชม
<?php
$user_role = "admin";
switch ($user_role) {
case "admin":
echo "ยินดีต้อนรับ, ผู้ดูแลระบบ";
break;
case "member":
echo "ยินดีต้อนรับ, สมาชิก";
break;
default:
echo "ยินดีต้อนรับ, ผู้เยี่ยมชม";
break;
}
?>
4.3 การใช้ if-elseif-else เพื่อคำนวณคะแนนสอบและให้เกรด
การใช้ if-elseif-else ในการคำนวณคะแนนสอบและให้เกรดแก่ผู้เรียน
<?php
$score = 78;
if ($score >= 90) {
echo "คุณได้เกรด A";
} elseif ($score >= 80) {
echo "คุณได้เกรด B";
} elseif ($score >= 70) {
echo "คุณได้เกรด C";
} elseif ($score >= 60) {
echo "คุณได้เกรด D";
} else {
echo "คุณได้เกรด F";
}
?>
5. ข้อดีและข้อจำกัดของ if-else และ switch
- if-else: เหมาะสำหรับการตรวจสอบเงื่อนไขที่มีความซับซ้อน หรือการเปรียบเทียบค่าที่มีช่วง
- switch: เหมาะสำหรับการตรวจสอบค่าที่แน่นอน เช่น ตรวจสอบค่าเท่ากับค่าหนึ่งๆ ทำให้โค้ดดูเรียบร้อยและอ่านง่าย
ข้อจำกัด:
- คำสั่ง if-else จะทำให้โค้ดยาวขึ้นถ้ามีหลายเงื่อนไข ทำให้เข้าใจยาก
- คำสั่ง switch ไม่สามารถใช้กับเงื่อนไขที่มีช่วงหรือมีการเปรียบเทียบซับซ้อนได้
6. บทสรุป
การใช้คำสั่งเงื่อนไข if-else และ switch ช่วยให้โปรแกรมสามารถเลือกทำงานตามเงื่อนไขที่กำหนดได้ ทำให้โปรแกรมมีความยืดหยุ่นและสามารถปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ได้ง่าย
ใส่ความเห็น