1. โครงสร้างพื้นฐานของ PHP
PHP ใช้โครงสร้างแบบสคริปต์ โดยสามารถเขียนโค้ด PHP ฝังลงในโค้ด HTML ได้ และทุกไฟล์ PHP จะต้องมีส่วนเปิด-ปิดของ PHP เสมอเพื่อบ่งบอกว่าเป็นโค้ด PHP ดังนี้:
<?php
// โค้ด PHP ทั้งหมดเขียนในระหว่างนี้
?>
ตัวอย่างการเขียน PHP แบบฝังใน HTML:
<!DOCTYPE html>
<html>
<head>
<title>เว็บไซต์ PHP ตัวอย่าง</title>
</head>
<body>
<h1>ยินดีต้อนรับสู่เว็บไซต์ของเรา!</h1>
<?php
echo "<p>ข้อความนี้แสดงโดย PHP</p>";
?>
</body>
</html>
2. คำสั่งแสดงผล (Output)
คำสั่งแสดงผลใน PHP มีสองคำสั่งที่นิยมใช้ ได้แก่ echo
และ print
- echo: ใช้สำหรับแสดงผลข้อมูลแบบไม่มีค่าคืนกลับ โดยมักจะใช้ในกรณีที่ต้องการแสดงผลข้อความในหน้าเว็บ
- print: มีการทำงานคล้ายกับ echo แต่มีค่าคืนกลับ (return value) ซึ่งใช้ในโครงสร้างการเขียนโปรแกรมได้
ตัวอย่างการใช้ echo
และ print
:
<?php
echo "ยินดีต้อนรับสู่ PHP!"; // ใช้ echo
print "PHP ง่ายและสนุก"; // ใช้ print
?>
3. การใช้ตัวแปรใน PHP
ตัวแปรใน PHP ต้องขึ้นต้นด้วยสัญลักษณ์ $
และสามารถเก็บค่าหลากหลายชนิดได้ เช่น ข้อความ ตัวเลข ฯลฯ โดยไม่ต้องกำหนดชนิดข้อมูลล่วงหน้า
ตัวอย่างการประกาศตัวแปรและการแสดงผล:
<?php
$name = "สมชาย";
$age = 25;
echo "ชื่อ: " . $name . "<br>";
echo "อายุ: " . $age;
?>
ในตัวอย่างนี้:
$name
และ$age
เป็นตัวแปรที่เก็บค่าข้อความและตัวเลขตามลำดับ- เครื่องหมาย
.
ใช้ในการเชื่อมต่อข้อความ
4. คำสั่งควบคุมการทำงานพื้นฐาน
PHP มีคำสั่งควบคุมการทำงานที่ใช้ในการตัดสินใจและการวนลูป เช่น if
, else
, while
, for
ฯลฯ
4.1 คำสั่ง if-else
ใช้ในการตัดสินใจว่าควรดำเนินการตามเงื่อนไขใด:
<?php
$age = 18;
if ($age >= 18) {
echo "คุณสามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้";
} else {
echo "คุณยังไม่ถึงเกณฑ์";
}
?>
4.2 คำสั่ง for loop
ใช้ในการวนลูป เช่น การแสดงผลข้อความซ้ำๆ:
<?php
for ($i = 1; $i <= 5; $i++) {
echo "รอบที่: $i <br>";
}
?>
5. ฟังก์ชัน (Functions)
ฟังก์ชันช่วยให้สามารถนำโค้ดมาใช้งานซ้ำได้โดยสะดวก โดยใช้ function
เพื่อสร้างฟังก์ชัน และสามารถกำหนดพารามิเตอร์ให้กับฟังก์ชันได้
ตัวอย่างการสร้างฟังก์ชัน:
<?php
function greet($name) {
echo "สวัสดี, $name!";
}
greet("สมชาย");
?>
ในตัวอย่างนี้:
- ฟังก์ชัน
greet
จะรับพารามิเตอร์$name
และแสดงผลข้อความทักทาย
6. การจัดการชนิดข้อมูล
PHP รองรับการจัดการชนิดข้อมูลแบบอัตโนมัติ (dynamic typing) แต่เราสามารถตรวจสอบหรือเปลี่ยนชนิดข้อมูลได้ด้วยฟังก์ชันในตัว เช่น is_string
, is_numeric
, intval
, floatval
เป็นต้น
ตัวอย่างการแปลงชนิดข้อมูล:
<?php
$number = "123"; // ข้อความที่มีตัวเลข
$integer = intval($number); // แปลงเป็นจำนวนเต็ม
echo $integer + 1; // ผลลัพธ์คือ 124
?>
7. การใช้คอมเมนต์ (Comments)
การคอมเมนต์เป็นวิธีการเขียนข้อความในโค้ดที่ PHP จะไม่ประมวลผล ใช้ในการอธิบายโค้ด
<?php
// คอมเมนต์บรรทัดเดียว
echo "สวัสดี"; // คอมเมนต์บรรทัดเดียวท้ายคำสั่ง
/*
คอมเมนต์หลายบรรทัด
สามารถอธิบายโค้ดได้หลายบรรทัด
*/
echo "PHP!";
?>
8. การใช้ PHP ในโปรเจกต์จริง
ความเข้าใจในโครงสร้างพื้นฐานและคำสั่งพื้นฐานใน PHP ช่วยให้เราสามารถนำ PHP ไปใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพในโปรเจกต์จริง ตัวอย่างการนำไปใช้งาน เช่น:
8.1 การสร้างระบบทักทายผู้ใช้
การใช้ตัวแปรและฟังก์ชันช่วยให้สามารถสร้างระบบทักทายผู้ใช้ได้ โดยดึงข้อมูลจากฟอร์มที่ผู้ใช้กรอกมา ตัวอย่าง:
<form method="post" action="welcome.php">
ชื่อของคุณ: <input type="text" name="name">
<input type="submit" value="ทักทาย">
</form>
ใน welcome.php
:
<?php
$name = $_POST['name'];
echo "สวัสดี, $name!";
?>
8.2 การคำนวณราคาสินค้า
PHP ใช้ในการคำนวณราคาสินค้ารวมภาษีได้ ตัวอย่าง:
<?php
$price = 100;
$tax = 0.07;
$total = $price + ($price * $tax);
echo "ราคารวมภาษี: $total บาท";
?>
9. บทสรุป
การเรียนรู้โครงสร้างพื้นฐานและคำสั่งพื้นฐานใน PHP ช่วยให้สามารถพัฒนาโปรเจกต์ที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการใช้ตัวแปร ฟังก์ชัน การควบคุมเงื่อนไข และการวนลูป
ใส่ความเห็น