บทที่ 1: Laravel คืออะไรและการติดตั้ง
Laravel คืออะไร?
- Laravel เป็น PHP Framework ที่พัฒนาขึ้นเพื่อช่วยในการสร้างเว็บแอปพลิเคชัน มีโครงสร้างที่เป็นระบบและง่ายต่อการพัฒนา มีฟีเจอร์เด่น เช่น Artisan Command Line, Eloquent ORM, Blade Template และระบบ Authentication ที่ครบครัน
การติดตั้ง Laravel
- ติดตั้ง Composer – Laravel ต้องใช้ Composer เพื่อจัดการแพ็คเกจ
- สร้างโปรเจค – ใช้คำสั่ง
composer create-project --prefer-dist laravel/laravel project_name
เพื่อสร้างโปรเจคใหม่ - ตรวจสอบการติดตั้ง – เข้าสู่โฟลเดอร์โปรเจคและใช้คำสั่ง
php artisan serve
เพื่อรันเซิร์ฟเวอร์ทดสอบ
บทที่ 2: ทำความเข้าใจ MVC (Model-View-Controller)
MVC คืออะไร?
- Laravel ใช้สถาปัตยกรรม MVC ในการพัฒนาเว็บแอปพลิเคชัน ซึ่งแยกการทำงานออกเป็น 3 ส่วนหลัก
- Model – จัดการข้อมูลและการเชื่อมต่อกับฐานข้อมูล
- View – แสดงผลลัพธ์ให้ผู้ใช้งานเห็น (ใช้ Blade Template ใน Laravel)
- Controller – ควบคุมการทำงานระหว่าง Model และ View
ประโยชน์ของ MVC
- ทำให้การพัฒนาง่ายขึ้น โดยแยกส่วนการจัดการข้อมูล การแสดงผล และการประมวลผลออกจากกัน
บทที่ 3: การสร้างโปรเจค Laravel ด้วย Composer
การสร้างโปรเจค Laravel
- ใช้คำสั่ง
composer create-project --prefer-dist laravel/laravel project_name
โดยระบุproject_name
เป็นชื่อโปรเจคที่ต้องการ - หลังจากสร้างโปรเจคเสร็จจะได้โครงสร้างไฟล์และโฟลเดอร์ที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาแอปพลิเคชัน Laravel
การเริ่มใช้งานโปรเจค
- เข้าสู่โฟลเดอร์โปรเจคและใช้คำสั่ง
php artisan serve
เพื่อเริ่มเซิร์ฟเวอร์ทดสอบ
บทที่ 4: โครงสร้างไฟล์ใน Laravel
โครงสร้างหลักใน Laravel
- app/ – เก็บโค้ดหลักของแอป เช่น Controllers, Models
- routes/ – ไฟล์กำหนดเส้นทาง เช่น
web.php
,api.php
- resources/ – เก็บไฟล์ View, Blade templates และไฟล์ภาษา
- config/ – เก็บไฟล์คอนฟิกต่างๆ ของแอปพลิเคชัน
- public/ – ไฟล์ที่สามารถเข้าถึงได้จากภายนอก เช่น CSS, JavaScript
ทำให้การจัดการโค้ดมีระเบียบ – โครงสร้างที่เป็นระบบช่วยให้การพัฒนาทำได้ง่ายและลดความซับซ้อนของโค้ด
บทที่ 5: การใช้ Artisan Command Line
Artisan คืออะไร?
- Artisan เป็น Command Line Interface ของ Laravel ที่ช่วยให้สามารถจัดการและดำเนินการต่างๆ ได้สะดวก เช่น การสร้างคอนโทรลเลอร์ การรัน migration และการจัดการฐานข้อมูล
คำสั่ง Artisan ที่ใช้บ่อย
php artisan serve
– รันเซิร์ฟเวอร์ทดสอบในเครื่องphp artisan make:controller ControllerName
– สร้างคอนโทรลเลอร์php artisan make:model ModelName
– สร้างโมเดลphp artisan migrate
– รัน migration เพื่อสร้างตารางในฐานข้อมูล
บทที่ 6: การตั้งค่า .env และการจัดการการเชื่อมต่อฐานข้อมูล
การตั้งค่าในไฟล์ .env
- ไฟล์
.env
ใช้สำหรับการตั้งค่าต่างๆ เช่น การเชื่อมต่อฐานข้อมูล และการตั้งค่าแอปพลิเคชัน เช่น
DB_CONNECTION=mysql
DB_HOST=127.0.0.1
DB_PORT=3306
DB_DATABASE=myapp
DB_USERNAME=root
DB_PASSWORD=password
การเชื่อมต่อฐานข้อมูล
- ค่าต่างๆ ใน
.env
จะถูกใช้เพื่อกำหนดการเชื่อมต่อฐานข้อมูลใน Laravel โดยสามารถทดสอบการเชื่อมต่อด้วยคำสั่งphp artisan migrate
บทที่ 7: การรัน Laravel Server และการเข้าถึงผ่าน localhost
การรันเซิร์ฟเวอร์ด้วย Artisan
- ใช้คำสั่ง
php artisan serve
เพื่อรันเซิร์ฟเวอร์ทดสอบในเครื่อง ซึ่งจะรันที่http://127.0.0.1:8000
- สามารถระบุพอร์ตเองได้โดยใช้
php artisan serve --port=8080
การเข้าถึงแอปพลิเคชันผ่าน localhost
- เข้าไปที่
http://127.0.0.1:8000
หรือhttp://localhost:8000
ในเบราว์เซอร์เพื่อดูผลลัพธ์ของแอปพลิเคชัน