1. การติดตั้ง Git บนคอมพิวเตอร์
ก่อนการใช้งาน GitHub ควรติดตั้ง Git บนเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณเพื่อใช้ควบคุมเวอร์ชันของโค้ดในเครื่อง
ขั้นตอนการติดตั้ง Git
- ดาวน์โหลด Git:
- เข้าไปที่เว็บไซต์ https://git-scm.com/ เพื่อดาวน์โหลด Git ให้ตรงกับระบบปฏิบัติการที่ใช้งาน
- ติดตั้ง Git:
- เปิดไฟล์ติดตั้ง และทำตามขั้นตอนที่แนะนำบนหน้าจอ
- บน Windows, ควรเลือก Use Git from the Windows Command Prompt เพื่อให้สามารถเรียกใช้ Git จาก Command Prompt ได้ง่ายขึ้น
- ตรวจสอบการติดตั้ง Git:
- เปิด Terminal (หรือ Command Prompt บน Windows) และพิมพ์คำสั่ง
git --version
หากแสดงผลเป็นเวอร์ชันของ Git แสดงว่าติดตั้งสำเร็จแล้ว
2. การตั้งค่า Git และสร้างบัญชี GitHub
2.1 การตั้งค่าชื่อผู้ใช้และอีเมลใน Git
หลังจากติดตั้ง Git เสร็จเรียบร้อย ควรตั้งค่าชื่อผู้ใช้และอีเมลที่จะใช้ในการระบุผู้เขียนโค้ดทุกครั้งที่มีการ Commit
git config --global user.name "Your Name"
git config --global user.email "[email protected]"
2.2 การสร้างบัญชี GitHub
- เข้าไปที่ https://github.com/
- คลิกที่ Sign up และกรอกข้อมูลเพื่อสร้างบัญชี GitHub
- ยืนยันอีเมลตามที่ระบบส่งไปยังอีเมลของคุณ
3. การสร้างและใช้งาน Repository บน GitHub
3.1 การสร้าง Repository ใหม่บน GitHub
- ล็อกอินเข้าบัญชี GitHub
- คลิกที่ New ในหน้าหลักของ GitHub หรือไปที่ https://github.com/new
- กรอกข้อมูลสำหรับ Repository ใหม่ เช่น ชื่อโปรเจกต์, คำอธิบายสั้นๆ
- เลือก Public หากต้องการให้ Repository สาธารณะ หรือ Private หากต้องการให้เป็นส่วนตัว
- คลิก Create repository
3.2 การเชื่อมต่อ Repository บน GitHub กับ Local Repository
เมื่อสร้าง Repository บน GitHub แล้ว เราสามารถเชื่อมต่อกับโค้ดในเครื่องของเราได้ผ่านคำสั่ง Git โดยการ สร้าง Local Repository แล้วเชื่อมต่อกับ Repository บน GitHub
# เริ่มต้น Git ในโฟลเดอร์โปรเจกต์
git init
# เพิ่มไฟล์ทั้งหมดในโปรเจกต์ไปยัง staging area
git add .
# Commit ไฟล์
git commit -m "First commit"
# เชื่อมต่อกับ GitHub Repository ที่เพิ่งสร้าง
git remote add origin https://github.com/username/repository_name.git
# Push โค้ดขึ้นไปยัง GitHub
git push -u origin master
4. การใช้งาน GitHub ในการควบคุมเวอร์ชันและการทำงานร่วมกัน
4.1 การ Commit และ Push โค้ด
- Commit: คือการบันทึกการเปลี่ยนแปลงใน Local Repository
- Push: คือการส่งการเปลี่ยนแปลงจาก Local Repository ไปยัง Repository บน GitHub
ตัวอย่างการ Commit และ Push:
git add .
git commit -m "Update readme and add new features"
git push origin master
4.2 การ Pull และ Fetch โค้ดจาก GitHub
- Pull: ดึงการเปลี่ยนแปลงจาก GitHub ลงมาที่ Local Repository
- Fetch: ตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงใหม่บน GitHub แต่ยังไม่รวมการเปลี่ยนแปลงเข้ากับ Local Repository
ตัวอย่างการ Pull:
git pull origin master
4.3 การสร้าง Branch เพื่อทำงานร่วมกัน
การสร้าง Branch เป็นวิธีที่ช่วยให้สามารถพัฒนาฟีเจอร์หรือแก้ไขโค้ดแยกออกจากกันได้ โดยไม่กระทบกับ Branch หลัก
# สร้าง Branch ใหม่
git branch feature-branch
# เปลี่ยนไปยัง Branch ใหม่
git checkout feature-branch
4.4 การ Merge Branch เข้ากับ Branch หลัก
เมื่อทำงานเสร็จสิ้นใน Branch ที่สร้างขึ้น สามารถรวมโค้ดเข้ากับ Branch หลัก (เช่น master หรือ main) ได้ด้วยการ Merge
# กลับไปยัง Branch หลัก
git checkout master
# รวม Branch ที่ต้องการเข้ากับ master
git merge feature-branch
5. การใช้งาน GitHub ในโปรเจกต์จริง
GitHub ช่วยให้สามารถจัดการโค้ดในโปรเจกต์ที่มีหลายคนร่วมงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างเช่น:
- การควบคุมเวอร์ชันของโค้ด: สามารถย้อนกลับไปยังเวอร์ชันก่อนหน้าได้
- การทำงานร่วมกัน: สมาชิกในทีมสามารถสร้าง Branch แยกเพื่อพัฒนาฟีเจอร์เฉพาะ และทำ Pull Request เพื่อขอรวมโค้ดเข้ากับ Branch หลัก
- การตรวจสอบการเปลี่ยนแปลง (Code Review): GitHub มีเครื่องมือสำหรับการตรวจสอบโค้ดก่อนการรวมโค้ดเข้าด้วยกัน