หมวดหมู่: Alpine.js
-
บทที่ 25: การใช้ x-ref
x-ref เป็นคำสั่งใน Alpine.js ที่ช่วยให้คุณสามารถอ้างอิง DOM ภายใน Component ได้อย่างสะดวก
-
บทที่ 26: การเขียนฟังก์ชันใน x-data
x-data ไม่เพียงแค่ใช้สำหรับกำหนด State แต่ยังสามารถสร้าง ฟังก์ชัน เพื่อเพิ่มความสามารถให้กับ Compone…
-
บทที่ 27: การส่งพารามิเตอร์ในฟังก์ชัน
Alpine.js คุณสามารถสร้างฟังก์ชันที่รับพารามิเตอร์และเรียกใช้ฟังก์ชันนั้นพร้อมกับส่งค่าพารามิเตอร์ใน …
-
บทที่ 28: การใช้งาน $watch
$watch เป็นคำสั่งใน Alpine.js ที่ช่วยให้คุณสามารถติดตามการเปลี่ยนแปลงของค่าภายใน State และรันฟังก์ชั…
-
บทที่ 29: การใช้ $nextTick
$nextTick เป็นคำสั่งใน Alpine.js ที่ใช้สำหรับรันโค้ดหรือฟังก์ชันหลังจากที่ DOM ถูกอัปเดตเสร็จสมบูรณ์
-
บทที่ 30: การใช้ Magic Properties
Magic Properties ใน Alpine.js คือคุณสมบัติพิเศษที่ช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงข้อมูลหรือจัดการ DOM ได้สะด…
-
บทที่ 31: การใช้ Alpine.store
Alpine.store เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้คุณสามารถแชร์ State ระหว่าง Component ต่าง ๆ ในหน้าเว็บได้
-
บทที่ 32: การอัปเดต Alpine.store
Alpine.store ช่วยให้คุณสามารถแชร์ State ระหว่าง Component ต่าง ๆ และสามารถเพิ่ม, ลบ, หรืออัปเดตค่าภา…
-
บทที่ 33: การสร้าง Store แบบ Dynamic
Store แบบ Dynamic ใน Alpine.js ช่วยให้คุณสามารถสร้าง State หรือข้อมูลที่ปรับเปลี่ยนได้ในเวลาทำงาน โด…
-
บทที่ 34: การใช้งาน Event Bus
Event Bus ใน Alpine.js เป็นกลไกที่ช่วยให้ Component ต่าง ๆ สามารถสื่อสารกันได้โดยการส่งและรับ Event
-
บทที่ 35: การรวม Component ซ้อนกัน
ใน Alpine.js Component ซ้อนกัน หมายถึงการสร้าง Component ภายใน Component เพื่อแยกส่วนการทำงานหรือจัด…
-
บทที่ 36: การดึงข้อมูลจาก API
ใน Alpine.js คุณสามารถดึงข้อมูลจาก API ภายนอกได้โดยใช้ Fetch API ภายใน Component